เราควรจะทำอย่างไรกับปลาตู้ที่ได้มาใหม่ๆ
นักเลี้ยงปลาตู้หน้าใหม่บางคนฉงนสงสัยว่า
ทำไมปลาที่ซื้อมาใหม่ๆ หรือได้รับแลกกับใครมาใหม่ๆ ถึงไม่ค่อยจะรอด คือตายง่ายๆ ผิดกับปลาที่เลี้ยงๆ
ไว้ การที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เพราะเราได้ปลาเจ็บปลาป่วยมา
และไม่ใช่เพราะปลาผิดสภาพที่เคยอยู่มาเท่านั้น เช่น
เคยอยู่ในตู้ที่มีการให้ออกซิเจนแล้วกลับต้องมาอยู่ในตู้ที่ไม่มีการให้ออกซิเจน
ซึ่งอาจทำให้ปลาหงอยเหงาไม่ค่อยกินอาหาร และดังนั้นจึงอาจจะตายไปง่ายๆ
ไม่ใช่เข่นนี้เท่านั้น แต่ยังมีเหตุอื่นๆ อีก
ตามปกติ
ถ้าเป็นปลาที่มาจากตู้ซึ่งถูกสุขลักษณะสำหรับปลา เช่นมีการให้อากาศดี
คือตู้ก็ใหญ่โตพอน้ำก็สะอาด ต้นไม้ก็งามและอยู่ในที่ที่มีแสงแดดพอเหมาะสมควร
รวมทั้งมีการให้ออกซิเจนกันด้วย นอกจากนี้ในการให้ตัวปลามา
ก็ไม่ได้เสียเวลานานเช่นครึ่งค่อนวัน และทั้งปลาก็มิได้มีอาการซึ่งแสดงว่า
บอบซ้ำว่าถูกกระทบกระเทือนจากการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิภายในภาชนะขณะที่นำมาด้วยแล้ว
ก็ไม่มีอะไรที่จะต้องเอาใจใส่กันมากนัก นอกจากหัวข้อที่ง่ายเพียง 5 ข้อดังต่อไปนี้
1. ให้สังเกตดูว่า
น้ำที่จะใช้เลี้ยงปลาที่ได้มาใหม่ๆ
นั้นมีอุณหภูมิต่างกับน้ำที่ในภาชนะซึ่งปลาใส่ปลามากี่องศา ตามปกติแล้วไม่ควรเกิน 2 องศา
อันเป็นความแตกต่างที่ใช้กันเป็นเกณฑ์สำหรับการโยกย้ายปลาในทุกๆ สถานการณ์
หากภาชนะที่ใส่ปลามามีขนาดเล็กมากจนสังเกตดูความแตกต่างของอุณหภูมิที่ในน้ำได้ยากแล้ว
วิธีที่ดีที่สุดคือ เอาภาชนะที่ใส่ปลานั้นมาหย่อนลงไปลอยอยู่ในตู้ปลานั้นอยู่
จนกระทั่งรู้สึกได้ว่าน้ำในภาชนะนั้นกับที่ในตู้ปลานั้นน่าจะมีอุณหภูมิที่เสมอเหมือนกันแล้ว
จึงค่อยปล่อยปลาลงไป ซึ่งจะไม่ทำให้ปลารู้สึกสะท้านเหมือนเมื่อน้ำทั้งสองแห่งยังมีอุณหภูมิที่ต่างกันอยู่
คือน้ำในตู้เย็นกว่าในถุงที่ใส่ปลามา
หรือน้ำที่ใส่ปลามาเย็นกว่าน้ำที่ในตู้ซึ่งจะเลี้ยงปลานั้น
2. นอกจากอุณหภูมิของน้ำ
ซึ่งควรต่างกันได้ไม่เกิน 2 °C ตามที่ได้กล่าวมาในข้อ
1 แล้ว นักเลี้ยงปลาที่ดีก็น่าจะระมัดระวังไว้ด้วยว่า
กรดหรือด่างที่ในน้ำก็อาจเป็นอันตรายแก่ปลาได้
ถ้ามีปริมาณที่แตกต่างกันในระหว่างน้ำทั้งสองแห่งนั้น
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับปลาที่ต้องนำมาเป็นระยะทางไกลๆ
ซึ่งตามปกติย่อมจะคุ้นอยู่กับน้ำที่ภายในภาชนะนั้น
อันเป็นน้ำที่ย่อมแตกต่างกับน้ำที่ในตู้ปลาอย่างแน่นอน
เพราะฉะนั้นนักเลี้ยงปลาตู้ที่รอบคอบ
จึงมักจะใช้วิธีผสมน้ำในภาชนะที่ใส่ปลามาลงไปปนกับน้ำในตู้ปลานั้นอยู่ด้วย
นอกจากนี้คนที่มีความรู้ความเข้าใจในการส่งปลาไปเป็นระยะทางไกลๆโดยมากเขาไม่ให้อาหารแก่ปลา เพราะความที่สงสารปลาเกรงว่าปลาจะหิวโหยในระหว่างทาง
เพราะการทำเช่นนั้นจะยิ่งทำให้ปลาอยู่ในสภาพที่ล่อแหลมอันตรายยิ่งขึ้นแต่เขาจะพยายามให้อาหารแก่ปลาแต่ละครั้งทีละน้อยๆ
ล่วงหน้ามาเป็นเวลาสักสองสามวันก่อน
คือหัดให้ปลาอดหรือเคยชินก่อน
และอาหารโดยมากก็ใช้สัตว์เป็นตัวเล็กๆ เช่น ลูกไรหรือลูกน้ำ เป็นต้น รวมอยู่กับอาหารอื่นอีกบ้าง
เมื่อทราบเช่นนี้แล้วปลาตัวที่ท่านได้มาก็ย่อมจะหิวกว่าปลาในตู้
จึงต้องระวังอย่าให้ปลากินอิ่มเกินไปอาจจุกแน่นตายได้เหมือนกัน
3. ตรวจสอบปลาที่ได้มาก่อนว่า
เป็นโรคอะไรบ้างหรือเปล่า เช่น โรค Ichthyophthirius
หรือที่อีกชื่อหนึ่งหรือเรียกอีกชื่อหนึ่งกันว่า โรค Peper
and salt ทั้งนี้โดยสังเกตดูที่ครีบและแห่งอื่นๆ
ตามตัวปลาดังอธิบายมาแล้วถ้าเห็นว่าปลามีอาการของโรคดังกล่าว
หรือสงสัยว่าจะมีก็ควรทำการป้องกันเสียก่อนโดยใช้ Permanganate of Potash ขนาดหนัก เกรน ผสมลงในน้ำทุกๆ หนึ่งแกลลอน กับทำให้น้ำนั้นมีอุณหภูมิขึ้นสูงถึง
85 องศาด้วย แล้วปล่อยปลาไว้ในน้ำราวๆ สัก 3-4 วันก่อน
4. บางคนใช้วิธีให้อากาศเข้าไปภาชนะที่ใส่ปลามาเป็นชั่วโมงๆ
ก่อนที่จะปล่อยปลาลงในตู้ การทำเช่นนี้จะช่วยให้ปลามีความสดชื่นขึ้น
และทำให้มีเวลาปรับอุณหภูมิให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมต่างๆ ณ ที่ตั้งใหม่นั้นอีกด้วย
5. ในกรณีที่ตู้เก่ามีปลาอยู่แล้ว
ก่อนจะปล่อยปลาใหม่ลงไปก็ควรจะใช้วิธีแนะนำปลาใหม่ให้รู้จักกับปลาเก่าที่ในตู้
ภายในที่ได้ให้ปลาเก่าในตู้ได้กินอาหารเสียก่อนจนอิ่มแปล้แล้ว
คือปรนปลาเก่าจนพุงกางแล้ว จึงค่อยปล่อยปลาใหม่ลงไปโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าปลาใหม่ตัวเล็กกว่าปลาเก่า
มิฉะนั้นปลาใหม่อาจจะถูกปลาเก่ากัดหรือไล่จนเหนื่อยอ่อนยิ่งขึ้นไปอีกเลยตายไปได้ในที่สุด
แทงบอล มวย แทงหวย เกมส์ คาสิโน และอีกมากมาย ต้องการสมัครหรือสอบถาม แอดไอดีไลน์ CASATHAI
เปิดบริการ
24 ชั่วโมง แอดมาคุยกันก่อนได้นะคะ