การตรวจสอบความบกพร่องต่างๆ ที่เกี่ยวกับตู้ปลา
โดยมากนักเลี้ยงปลาตู้มักจะสนใจอยู่แต่เรื่องการให้อาหารปลาและความอบอุ่นแก่ปลา
แต่เรื่องอื่นๆ มักจะไม่คำนึงถึง เช่น อยู่ๆ ก็มีปลาเจ็บตาย ทั้งๆ
ที่ตู้ปลาของท่านอยู่ในสภาพที่ดีอย่างถึงขนาด จนกระทั่งนักเลี้ยงปลาใหม่ๆ
เกิดความท้อแท้พาลจะเลี้ยงเอาส่ง
เพราะแก้ปัญหาไม่ตกไม่ทราบว่าจะเกิดจากอะไรหรือเพราะอะไร
แต่ถ้านึกถึงว่าตามธรรมดาแล้ว ผลย่อมเกิดจากเหตุก่อนเสมอ
คือถ้าไม่มีเหตุก็ไม่น่าจะมีผลหรือว่าเมื่อมีเหตุไรสักอย่างเป็นแน่และเหตุผลเหล่านั้นถึงแม้ว่าบางอย่างเราอาจจะเข้าไปถึงคือคลำหาจุดเริ่มต้นที่เป็นแก่นสารความจริงไม่ได้หรือไม่รู้แจ้งชัด แต่ก็มีหัวข้ออยู่หลายกระการที่พอจะสันนิษฐานได้ว่าเกิดจากอะไร
เช่น
1. มีปลาตาย หรือหอยตาย อยู่ในตู้นั้นมากหรือเปล่า
2. น้ำที่ในตู้นั้นมีกลิ่นบ้างหรือไม่ ถ้ามีก็ควรจะเปลี่ยนออกเสียบ้างและถ้าทำให้ได้ก็ให้อากาศช่วยด้วย
ในการเปลี่ยนน้ำก็อาจใช้วิธีสูบออกด้วยสายยาง หรือจะตักออกก็ได้
3. มีแสงสว่างเข้ามาในตู้ปลาอย่างพอเพียงสำหรับต้นไม้ที่ในตู้ปลาหรือไม่
หรือว่าต้นไม้ที่อยู่ในตู้อยู่ในสภาพที่น่าดู เช่น งอกงามดีไหมหรือว่าอับเฉา
ไม่สดสวยเท่าที่ควร เพราะว่าต้นไม้ที่ไม่งามนั้น
อาจเป็นอันตรายแก่ปลาในตู้ได้โดยผู้เลี้ยงปลาไม่ทันรู้ตัวโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ากับใบเหลืองผิดปกติละก็ควรเอาออกได้แล้วเพราะว่าต้นไม้ที่ไม่งามนั้น
แทนที่จะเป็นสื่อหรือพาหะรับเอาออกซิเจนเข้าไปกลับจะยิ่งเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ไปพร้อมกับระบายถ่ายเทเอาคาร์บอนไดออกไซด์ที่ในน้ำให้มากยิ่งขึ้น
4. มีแผ่นนิเกลหรือแผ่นโลหะชุบโครเมี่ยมที่ในตู้ปลาตอนไหนสัมผัสอยู่กับน้ำในตู้ปลาบ้าง
เพราะอาจเป็นพิษขึ้นได้ดังที่ได้กล่าวมาแล้วแต่ต้น
5. ในตู้นั้นมีปลาอยู่หนาแน่นเพียงไร คุณควรลดจำนวนปลาออกเสียบ้างจะได้ไหม
6. น้ำในตู้ปลาเคยเป็นสีเขียวเข้มแล้วต่อมากลับกลายเป็นสีเหลืองอร่ามไปทั้งตู้บ้างไหม? เพราะนั่นแสดงว่าในตู้นั้นมีต้นไม้ที่กำลังจะตายอยู่แล้ว
และควรจะเปลี่ยนน้ำนั้นได้แล้ว
7. น้ำที่ในตู้ปลานั้นมีสภาพขุ่นข้นเป็นคล้ายๆวุ้นหรือไม่เพราะนั่นแสดงว่าสกปรกและหมดคุณภาพสำหรับปลาแล้ว
ควรเปลี่ยนเสียโดยเร็ว
8. เคยมีปลาหนาวตายบ้างไหม (โดยมากในต่างประเทศ) เช่น
ปล่อยให้ปลาอยู่ในน้ำซึ่งมีอุณหภูมิต่ำกว่า 68 °C เป็นต้น ความจริงควรจะให้น้ำที่ในตู้ปลาอยู่ในระดับอุณหภูมิไม่ต่ำกว่า
80 °C จะดีกว่า และถ้ารู้สึกว่าปลาอ่อนเพลีย
ก็ค่อยๆ ลดอุณหภูมิลงมาให้อยู่ระหว่าง 75 ถึง 76 องศา
9. เครื่องกรองน้ำที่ใช้ ควรทำการชำระล้างกันบ้าง
เช่น ทุกๆ อาทิตย์เคยไหม เพราะอาจสกปรกได้
10. เคยมีควันจากถ่าน จากสี หรือจากบุหรี่มาเข้าตู้ปลาบ้างไหม?
11. น้ำในตู้ปลามีสภาพกระด้างเกินไปหรือไม่มีกรดมีด่างมากเกินไปหรือไม่และได้ปล่อยปะละเลยไว้นานๆ
หรือไม่ ถ้าสงสัยในเรื่องเช่นนี้ ก็ควรจะเปลี่ยนน้ำเก่าออกเสีย
แล้วเติมน้ำใหม่เข้าไปครึ่งต่อครึ่งโดยใช้น้ำที่ไม่กระด้าง เช่น น้ำประปาที่มีกลิ่นคลอรีนหรือน้ำบ่อที่ใสเอง
โดยไม่มีสารส้มมาก่อนหรือจะเป็นน้ำหรือแม่น้ำที่ทิ้งไว้นานจนใสสนิทแล้วหรือถ้าเป็นในต่างประเทศจะให้น้ำหิมะที่ละลายแล้วโดยไม่เคยถูกโลหะ
หรือท่อนไม้สดๆ มาก่อนเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าน้ำฝนแล้ว หากไม่เคยใช้ละก็อย่าใช้
เพราะอุณหภูมิต่างกับน้ำอื่นๆ โดยมากเย็นจัด
12. นอกจากที่กล่าวมาแล้ว 11 ข้อข้างต้น
ก็ยังมีความยุ่งยากอยู่อีกประการหนึ่งซึ่งคลำหาสาเหตุกันไม่ค่อยพบ
และเป็นเรื่องธรรมดาสามัญที่สุดเสียอีกด้วย นั่นก็คือ
การใช้กาทองแดงต้มน้ำที่ผ่านมาจากท่อทองแดงซึ่งเป็นอันตรายแก่ปลา ต้องระวังหลีกเลี่ยงเสีย
แล้วพยายามหาน้ำจากแหล่งอื่นใช้