คุณภาพของน้ำสำหรับปลาตู้
ความจริงน้ำอะไรที่ไม่สกปรก
ไม่มีกรดหรือไม่มีด่างจนเป็นอันตรายแก่ปลาแล้ว ก็น่าจะใช้ได้ทั้งนั้น เช่น น้ำบ่อ
น้ำคลอง หรือน้ำแม่น้ำ เป็นต้น บางทีเมื่อตักมาทิ้งไว้ให้ใสสนิทแล้ว
อาจดีกว่าน้ำประปาเสียอีก แต่ก็เชื่อถือไม่ได้เสมอไป
เพราะไม่ใช่ว่าสักแต่ให้เป็นน้ำใสๆ แล้วจะมีประโยชน์แก่ปลาเรื่อยไปเสมอ เช่น
น้ำที่อาจมียางไม้ ซึ่งเกิดจากชิ้นไม้ที่ตกลงไป เป็นต้น ก็อาจเป็นอันตรายแก่ปลาได้
และเนื่องจากปลาตู้ไม่ใช่เป็นปลาแกง แต่ก็หาได้ไม่ง่ายเสมอไป
เราจึงจำต้องถนอมไว้บ้างเพื่อให้เป็นอาหารตาของเรา
ถึงแม้น้ำประปาเองก็ตาม บางทีอาจเป็นอันตรายแก่ปลาได้ถ้ามีกลิ่นคลอรีนมากเกินไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำประปาที่ฝั่งธนบุรี ซึ่งส่วนมากก่อนนี้มักเป็นน้ำจากบ่อบาดาล ซึ่งอาจมีสนิมเหล็กบ้าง ธาตุปูนบ้างปะปนอยู่
สังเกตได้เมื่อรองใส่ถังไว้มักจับดำๆ แดงๆ หรือเมื่อเอาไปต้มก็จับกันกาเป็นแผ่นๆ
เพราะฉะนั้นจึงต้องระมัดระวังก่อนเอามาใช้เลี้ยงปลา ควรรองใส่ตุ่มค้างคืนหนึ่ง
หรือถ้าท่านมีตุ่มอะไหล่มากรอทิ้งไว้สักพัก 2-3 คืนได้ยิ่งจะปลอดภัย
และเป็นประโยชน์แก่สุขภาพอนามัยของปลายิ่งขึ้น เพื่อให้อะไรต่างๆ ได้ตกตะกอนนอนก้น
และเพื่อให้กลิ่นไอของคลอรีนได้ระเหยหายไปเสียก่อนที่จะลงไปอยู่ในน้ำมัน
ในยามรีบด่วนท่านอาจจะรองน้ำใส่อ่างใหญ่ๆ ตากแดดไว้สักชั่วโมงสองชั่วโมง
หรือไม่ถึงก็ได้ โดยพยายามคนน้ำเพื่อให้กลิ่นคลอรีนหมดไปโดยเร็วก็ได้
เพราะคลอรีนในน้ำประประปาเมื่อถูกความร้อนเข้าก็จะระเหยไปได้ไม่ยากนัก
ตามปกติทั้งปลาและต้นไม้จะอยู่ได้หรือไม่ได้
จะเจริญเติบโตงอกงามดีหรือไม่เพียงไรนั้น ย่อมขึ้นอยู่กับน้ำที่ใช้ด้วย
ดังนั้นน้ำที่ใช้จึงควรจะเป็นน้ำที่มีคุณภาพดีคือไม่กระด้างจนถึงกับฟอกสบู่ไม่ออก
แต่ก็อีกนั่นแหละ การที่จะทราบได้ว่าน้ำอะไรจะกระด้างหรือไม่กระด้างแค่ไหนนั้น
ก็เป็นเรื่องยากที่จะเจาะจงลงไปได้
เพราะฉะนั้นผู้เลี้ยงปลาจึงควรจะได้พิจารณาดูให้เหมาะสม ตามหลักทั่วๆ
ไปแล้วถือกันว่า น้ำอะไรก็ตามที่ไม่ถึงกับทำให้คนที่รับประทาน หรือใช้น้ำนั้นต้องฟันผุไปแล้วก็น่าจะเป็นน้ำที่มีประโยชน์และใช้เลี้ยงปลาได้ตามสมควร
ขอบคุณข้อมูล
เว็บพนันออนไลน์ แอดไอดีไลน์ FIFATHAI