วิธีดูเพศปลาทอง ปลาทองตัวไหนตัวผู้ ตัวไหนตัวเมีย จะมีวิธีดูยังไง?

 วิธีดูเพศปลาทอง ว่าปลาทองตัวไหนตัวผู้ ตัวไหนตัวเมีย วิธีดูนั้นไม่ได้ยากอย่างที่หลายๆ คนคิด แต่ดูเผินๆ ปลาทองทุกตัวก็หน้าตาเหมือนๆ กันหมด แล้วเราจะสังเกตจากตรงไหนดีล่ะทีนี้ 


จริงๆ แล้ว วิธีดูเพศปลาทอง สามารถดูได้หลักๆ จากการสังเกต ครีบว่าย รูทวาร และสรีระของปลาทอง แต่จะเห็นชัดหรือสามารถแยกเพศได้อย่างชัดเจน เมื่อปลามีอายุประมาณ 6 เดือนขึ้นไป หรือเข้าสู่วัยที่เจริญพันธุ์ โดยวิธีสังเกตเพศปลาทองจะมีด้วยการหลักๆ 3 วิธีง่ายๆ :

  1. ครีบว่าย หรือ ครีบอก ในปลาทองตัวผู้ ถ้าสังเกตดูดีๆ ตรงครีบว่ายจะมีเม็ดสีขาวๆ ขุ่นๆ หรือที่บางคนจะเรียกว่าตุ่มสิว ขึ้นเรียงกันตรงครีบว่าย บางตัวก็จะขึ้นกระจัดกระจายอยู่บริเวณแก้ม แต่ตัวเมียจะไม่มี
  2. รูทวาร ในปลาทองตัวผู้ รูทวารจะมีลักษณะเป็นวงรี คล้ายเมล็ดข้าว สำหรับปลาทองตัวผู้ที่เข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ ถ้าเราเอามือบีบท้องเขาเบาๆ จะมีน้ำเชื้อขาวๆ พุ่งออกมาจากบริเวณทวาร แต่ตัวเมียรูทวารจะมีลักษณะเป็นวงกลม มีท่อรังไข่ยื่นออกมา ทำให้ดูเหมือนมีปุ่มขาวๆ นูนๆ บริเวณรูทวาร
  3. สรีระ ในปลาทองตัวผู้ จะมีลักษณะ หุ่นเรียวเพียวบางกว่าตัวเมีย และเลี้ยงให้อ้วนได้ยากกว่าปลาตัวเมีย

“ปลากัด” เสน่ห์แห่งปลาสวยงาม เลี้ยงง่าย แถมสร้างรายได้อีกด้วย



คนรักปลาต้องรู้! ความรู้เกี่ยวกับวิธีเลี้ยงปลากัด ให้เจริญเติบโต

เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คนรักปลาว่า ปลากัด เป็นปลาที่นิยมเลี้ยงมานาน ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งชาวต่างชาติมักรู้จักในชื่อ Fighting Fish หรือ Siamese Fighting Fish และมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Betta splendens Regan ปลากัดนั้นจัดเป็นปลาพื้นเมืองดั้งเดิมของไทยที่นิยมเลี้ยงมาตั้งแต่สมัยโบราณเพื่อดูเล่น และเพื่อกีฬากัดปลา

ปลากัด จัดเป็นปลาสวยงามที่นิยมเลี้ยงกันอย่างแพร่หลาย ทั้งในด้านความสวยงาม การกีฬา และการสร้างรายได้ที่แน่นอนให้กับเกษตรกรหรือผู้ชื่นชอบ โดยปลากัดที่นิยมเลี้ยง ได้แก่ ปลากัดหม้อ และปลากัดจีน โดยปลากัดจีนจะเพาะเลี้ยงเพื่อเป็นปลาสวยงาม และเพื่อการส่งออกเป็นหลัก ส่วนปลากัดหม้อจะเพาะเลี้ยงเพื่อการนำมาต่อสู้กัน มูลค่าการซื้อขายในประเทศแต่ละปีประมาณ 5 – 10 ล้านบาท ส่วนตลาดต่างประเทศที่มีการส่งออกสามารถสร้างรายได้มากกว่า 20 – 30 ล้านบาทต่อปี ปลากัดไทย ถูกยกให้เป็นสัตว์น้ำประจำชาติ ด้วยเอกลักษณ์ของปลากัดไทยที่มีความดุดัน และในเวลาสงบก็อ่อนโยนมีเสน่ห์น่าดึงดูด ปลากัดเป็นปลาที่มีความผูกพันกับคนไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ ใครที่หลงใหลปลากัด เรามาอ่านเรื่องราวของปลากัด สายพันธุ์ปลากัดสวยงาม และวิธีเลี้ยงปลากัดไปพร้อม ๆ กันเลย


WM

วิธีเลี้ยงปลากัด

ปลากัดเป็นปลาสวยงามที่นิยมเลี้ยงเนื่องจากโตไว เลี้ยงง่าย ไม่ยุ่งยากใช้พื้นที่น้อย และไม่ต้องให้ออกซิเจนเพิ่ม เรามาดูวิธีเลี้ยงปลากัดกันเลย

1. หาซื้อตู้ปลาหรือโหลปลากัด

  • ขวดแก้ว: ใช้เลี้ยงปลากัดวัยรุ่น ที่ตัวยังไม่ใหญ่ ไม่เหมาะกับการเลี้ยงปลากัดครีบยาว
  • โหลกลม: ใช้วนน้ำเพื่อฝึกปลากัดให้แข็งแรง เหมาะกับปลาขนาดใหญ่
  • โหลทรงกระบอก: ใช้วนน้ำฝึกปลากัดได้เช่นกัน
  • โหลสี่เหลี่ยมทรงสูง: ใช้ในการเทียบปลากัดเพื่อเตรียมผสมพันธุ์
  • โหลสี่เหลี่ยมทรงเตี้ย: เหมาะกับการเลี้ยงปลากัดเพื่อโชว์ความพริ้วไหวของครีบและหางของปลากัด
WM

อาหารปลากัด ปลากัดกินอะไรเป็นอาหาร

วิธีเลี้ยงปลากัดอีกหนึ่งเรื่องที่สำคัญคือ อาหารปลากัด ถึงแม้ปลากัดจะเป็นปลาขนาดเล็ก แต่เป็นปลาที่กินเก่ง ผู้เลี้ยงสามารถให้อาหารปลากัดเช้า-เย็น หรือให้วันละ 1 ครั้งก็ได้ อาหารปลากัดแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ

  • อาหารปลากัดสำเร็จรูป ปกติปลากัดไม่ค่อยชอบกินอาหารสำเร็จรูป อาหารปลากัดสำเร็จรูปที่ปลากัดชอบที่สุดคือ อาหารแบบเกล็ด ปลากินง่าย ลอยบนผิวน้ำ
  • อาหารปลากัดที่ยังมีชีวิต เป็นอาหารปลากัดที่ปลาชอบกินมากกว่าอาหารสำเร็จรูป แต่ทั้งนี้การให้อาหารปลากัดเป็นสิ่งมีชีวิต ก็ควรระวังเรื่องของความสะอาด เพราะอาจทำให้ปลากัดติดโรคได้ อาหารปลากัดแบบสิ่งมีชีวิตคือ ลูกน้ำ ไรแดง หนอนแดง ไข่ของสัตว์ เช่น ไข่มด ไข่กุ้ง ไข่กบ ฯลฯ
WM

การเปลี่ยนน้ำปลากัด

วิธีเลี้ยงปลากัดหรือปลาสวยงามชนิดอื่น ๆ จำเป็นต้องเปลี่ยนน้ำให้ปลาอยู่เสมอ สำหรับปลากัดควรเปลี่ยนน้ำอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ขั้นตอนการเปลี่ยนน้ำปลากัดคือ

1. เตรียมน้ำที่จะเปลี่ยนและน้ำที่ต้องใช้ในการพักปลา
2. ให้นำปลาออกไปพักไว้ในน้ำใหม่ แล้วทำความสะอาดโหลด้วยผ้าสะอาด
3. เติมน้ำเดิม 1 ส่วน และน้ำใหม่ 3 ส่วน เพื่อรักษาสมดุลของแบคทีเรียในโหลเลี้ยงแล้วจึงนำปลากัดใส่ลงไป
ใช้น้ำหมักปลากัด เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการดูแลปลากัดให้สวยงาม ทำให้ปลาคึกกว่าปกติ และเร่งให้ปลากัดอยากก่อหวอดอีกด้วย


เกร็ดความรู้เกี่ยวกับวิธีเลี้ยงปลากัด

– การหายใจของปลากัด ปลากัดเป็นปลาที่ไม่จำเป็นต้องมีปั๊มออกซิเจนในตู้ เนื่องจากปลากัดสามารถว่ายขึ้นมาด้านบนเพื่อฮุบอากาศได้เอง แต่หากเลี้ยงเพื่อความสวยงาม ไม่จำเป็นต้องเลี้ยงในโหลแคบ ๆ มืด ๆ เสมอไป
– น้ำในการเลี้ยงปลากัด ควรเป็นน้ำสะอาด และมีคลอรีนให้น้อยที่สุด เปลี่ยนน้ำบ่อย ๆ ไม่ควรปล่อยให้ปลากัดปล่อยเมือกจนน้ำขุ่น
– ปลากัดมองตาก็ท้องไม่เป็นความจริง แต่การนำโหลปลากัดมาเทียบกัน ให้ปลากัดได้มองหน้ากันเป็นการลดความก้าวร้าวของทั้งคู่ เมื่อความก้าวร้าวลดลงจึงสามารถจับพ่อพันธุ์และแม่พันธุ์ใส่ในโหลเดียวกันเพื่อผสมพันธุ์ได้

เป็นอย่างไรกันบ้างคะ กับวิธีเลี้ยงปลากัดที่  natfishtank  นำมาฝากนั้น ง่ายๆ มากๆ เลยใช่ไหมคะ เมื่อรู้แบบนี้แล้วก็อย่าลืมนำไปเตรียมความพร้อมก่อนที่จะซื้อปลากัดมาเลี้ยงนะคะ ที่สำคัญเวลาเราเลี้ยงปลาเราต้องหมั่นดูแลความสะอาดของตู้ปลา และต้องหาเวลาเอาใจใส่ปลาของเราอยู่เสมอ เพื่อให้เค้าเติบโต อยู่กับเราไปนานๆ ค่ะ

5 อันดับปลาสวยงาม "แพงที่สุดในโลก" อัพเดต ปี 2022


หนึ่งในของขวัญที่สวยงามจากธรรมชาติ อย่างหนึ่งคือความหลากหลายของพันธุ์ปลาทั่วโลก ปลาทองธรรมดาเป็นที่รักของหลายๆ คน แต่ผู้ที่ชื่นชอบปลาบางคนชอบปลาที่ไม่เหมือนใคร ปลามีหลายชนิดและบางชนิดมีราคาแพง โดยราคาจะถูกกำหนดจากความหายาก เอกลักษณ์ หรือความสวยงามของปลา และบางตัวก็มีลักษณะเฉพาะ ทำให้คุณอยากได้มันมาในครอบครอง และนี่คือ 5 ปลาที่มีราคาแพงที่สุดในโลก


1. อโรวาน่าแพลตตินั่ม (Platinum Arowana)

เป็นที่ทราบกันดีว่าเราต้องเสียงานจำนวนมากเพื่อปลาสวยงาม ซึ่งไม่เพียงแต่ความสวยงาม แต่ความฉลาดของมันด้วย ปลาพวกนี้หายากมาก และยังได้รับการฝังไมโครชิป ก่อนที่มันจะเริ่มเติบโต



อันที่จริงสีพวกนี้เกิดจากการกลายพันธุ์ทางพันธุกรรม แต่นั้นก็เป็นเพียงการเพิ่มความหายาก อโรวาน่าแพลตตินั่มที่แพงสุดที่เคยมีการซื้อขายมา มีราคาถึง 14 ล้านบาท ($430,000)

2. ปลากระเบนน้ำจืดลายจุด (Freshwater Polka Dot Stingray)


เจ้านี่ไม่ใช่ปลากระเบนธรรมดา มันมีราคาสูงมากที่สุดในบรรดาปลากระเบน พวกมันมักอาศัยอยู่ตามก้นแม่น้ำของบราซิล ด้วยสีสันและลายจุดอันสวยงาม ทำให้มันมีราคาสูงมาก ค่าตัวที่เคยมีการซื้อขายกันมาคือ 3.3 ล้านบาท ($100,000)





3. ปลาเทวดาเป๊ปเปอร์มินต์ (Peppermint Angelfish)


ตามชื่อของมัน ปลาเทวดาตัวนี้มีลวดสายสีแดงและสีขาวลายเหมือนลูกกวาด ปลาตัวนี้เติบโตได้เพียง 7 เซนติเมตร เหมาะกับการเลี้ยงมาก





แต่เพระมันหายากมาก ทำให้มีราคาสูงและอีกอย่างพวกมันจับตัวยากมากด้วย เพราะมันชอบซ่อนอยู่ตามจุดลึกท่ามกลางแนวปะการังเขตร้อน ส่วนราคาของปลาตัวนี้บอกเลยว่าสะอึก 9.9 แสนบาท ($30,000)

4. ปลาเทวดาหน้ากาก (Masked Angelfish)


ปลาเทวดาอีกชนิด พบได้บริเวณรอบหมู่เกาะฮาวาย หน้าของมันเหมือนใส่หน้ากากตลอดเวลา เช่นเดียวกับพี่น้องของมัน มันจะอยู่ตามแนวปะการังและมีลวดลายเหมือนหินอ่อน ส่วนราคาของปลาตัวนี้คือ 9.9 แสนบาท ($30,000)

5.ปลากะรังจิ๋วครีบดาบ (Bladefin Basslet)


ปลาน้อยน่ารักตัวนี้พบได้ในทะเลแคริบเบียน ความหายากมาจากการที่มันตัวเล็กและจับยาก มันมีสีสันสวยงามตั้งแต่สีขาวจนถึงส้ม มันมีความยาวเพียงครึ่งนิ้วและเป็นที่ต้องการมาก เป็นเหตุให้มันมีราคาสูงในท้องตลาด โดยค่าตัวของมันคือ 3.3 แสนบาท ($10,000)



อันดับพิเศษ ปลาคาร์ป


หลายคนอาจคิดว่าทำไมปลาคาร์ปจึงไม่ติดอันดับ ..ผมเองก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน อาจเพราะปลาคาร์ปเป็นบางตัวถึงจะมีราคาแพงจริงๆ หรือเปล่า โดยปลาคาร์ปแพงที่สุดในโลก เป็นตัวที่ประมูลกันในปี 2018 S Legend เป็นปลา สายพันธุ์ Kohaku เพศเมีย อายุ 9 ปี จากประเทศญี่ปุ่น



ปลาตัวนี้ถูกประมูลไปด้วยราคา 203,000,000 เยน หรือประมาณ 59.7 ล้านบาท เจ้าปลาคาร์ปตัวนี้มาพร้อมกับความพิเศษด้วยสีแดงและขาวทั้งตัว ความยาวระดับ 101 เซนติเมตร เป็นปลาที่ชนะเลิศการประกวด All Japan Koi Show ปี 2017 .. แพงสุดๆ




7 ปลาสวยงาม เลี้ยงได้แม้อยู่ในคอนโด

หลายคนกำลังมองหาสัตว์เลี้ยงที่เลี้ยงง่ายไม่ต้องอาศัยเวลาในการดูแลเและเอาใจใส่มากอย่างปลาสวยงาม ที่นอกจากให้ความเพลิดเพลินใจกับเราแล้ว ยังเป็นส่วนหนึ่งที่เพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับบ้านของเราได้ไม่ยาก

อยู่คอนโดคนเดียวมันเหงา เลยอยากเลี้ยงปลาตู้ไว้คอยแก้เหงาในคอนโด ปลาตู้สวยงามมีหลากหลายชนิดที่เลี้ยงง่าย ดูแลง่าย และตู้เลี้ยงปลายังเป็นของตกแต่งคอนโดสวยๆ ชั้นดี ให้คุณรู้สึกสบายตา แถมไม่สร้างปัญหาให้กับผู้อยู่อาศัยร่วมในคอนโดอย่างสัตว์เลี้ยงอื่นอีกด้วย

อย่างที่ทราบกันดีโดยทั่วไป คอนโดส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้ผู้อยู่อาศัยในคอนโดเลี้ยงสัตว์ เพราะสัตว์เลี้ยงบางชนิดอาจส่งเสียงดังรบกวน มูลสัตว์เลี้ยงส่งกลิ่นเหม็น ขนร่วง ฯ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดปัญหากับผู้อยู่อาศัยร่วมกันในคอนโดได้ ทำให้หลายคนที่อยากจะมีสัตว์เลี้ยงไว้ในคอนโดเพื่อเป็นเพื่อนคอยแก้เหงา หันมาเลือกเลี้ยงปลาตู้สวยงามแทน ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด ทั้งในเรื่องของพื้นที่ขอจำกัด เรื่องส่งเสียงดัง เรื่องส่งกลิ่นเหม็น ลดข้อปัญหาที่อาจจะเกิดกรณีพิพาทกับเพื่อนบ้านในคอนโดอีกด้วย แต่ก่อนจะไปทราบถึงชนิดของปลาสวยงาม ที่สามารถเลี้ยงได้แม้อยู่ในคอนโด ทาง Natfishtank ได้นำข้อมูลการเตรียมความพร้อมสำหรับเลี้ยงปลาสวยงามในคอนโดมาฝากครับ

เตรียมความพร้อมก่อนเลี้ยงปลาในคอนโด

สำหรับมือใหม่ที่อยากเลี้ยงปลาไว้ดูเล่น แก้เหงาในคอนโด คุณจำเป็นต้องเตรียมอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงปลาในคอนโดเบื้องต้น ง่ายๆ ตามลิสต์ด้านล่าง ดังนี้




1. เตรียมพื้นที่วางตู้เลี้ยงปลาในคอนโด

คุณอาจลองจินตนาการถึงตู้เลี้ยงปลาของคุณในห้องรับแขก หรืออ่างดินเลี้ยงปลาบริเวณระเบียง เพื่อเลือกซื้ออุปกรณ์เลี้ยงปลาให้เหมาะสมกับขนาดและพื้นที่คอนโดของคุณ รวมถึงตอบโจทย์ความต้องการให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ควรวางตู้เลี้ยงปลาคอนโดไว้ในห้องนอนและห้องครัวเพราะผิดหลักฮวงจุ้ย


2. เลือกซื้อตู้เลี้ยงปลาในคอนโดที่เหมาะสม

สามารถเลือกได้ทั้งที่เป็นตู้ปลากระจกสี่เหลี่ยมทรงยาว ขวดโหลทรงกลม หรืออ่างดิน ขึ้นอยู่กับพื้นที่วางในคอนโด บางปัจจัยอาจขึ้นอยู่กับชนิดของปลาที่นำมาเลี้ยงด้วย


3. เพิ่มของตกแต่งตู้เลี้ยงปลาเพื่อความสวยงาม

หากตู้เลี้ยงปลาในคอนโดมีขนาดกลางขึ้นไป ควรซื้ออุปกรณ์เพิ่มอย่างพวกออกซิเจนให้กับปลาในตู้เลี้ยง เติมหินกรวด ลูกแก้ว รวมถึงต้นไม้น้ำที่ดูแลง่าย โตไว แถมช่วยให้ตู้เลี้ยงปลาและพื้นที่ในคอนโดดูมีชีวิตชีวา เช่น เพิลกลาส อนูเบียส เฟิร์นรากดำใบแคบ บูเซป เป็นต้น


4. มีอุปกรณ์ทำความสะอาดตู้เลี้ยงปลาครบครัน

ควรแยกอุปกรณ์ล้างขัดตู้เลี้ยงปลาออกจากอุปกรณ์ล้างทำความสะอาดของใช้อื่นๆ ไม่ควรใช้ร่วมกัน เพื่อรักษาอนามัยความสะอาด น้ำทิ้งจากตู้เลี้ยงปลาสามารถเททิ้งลงชักโครกและท่อน้ำทิ้งของคอนโดได้ตามปกติ

 

ด้วยความที่คอนโดมีพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่าบ้าน Natfishtank ขอแนะนำให้เลือกซื้ออุปกรณ์เลี้ยงปลาแต่น้อยไว้ก่อนในช่วงเริ่มเลี้ยงช่วงแรก เพื่อเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายและประหยัดพื้นที่จัดเก็บในคอนโดของคุณด้วย

7 ปลาสวยงาม ดูแลง่ายเลี้ยงได้ในคอนโด

มีการวิจัยทางการแพทย์กล่าวว่า การได้มองเห็นปลากำลังแหวกว่ายในน้ำไปมา สามารถช่วยคลายวิตกกังวล ความเครียด และช่วยลดระดับความดันโลหิตได้ นอกจากนั้นในหลักทางฮวงจุ้ย การเคลื่อนไหวของน้ำในตู้เลี้ยงปลาในคอนโด เปรียบเสมือนการไหลเวียนของเงินทองโชคลาภ ฉะนั้น เพื่อเพิ่มพูนความเป็นสิริมงคลควรเลี้ยงปลาในคอนโด จำนวน 6 ตัว และ 9 ตัว ตามความเชื่อในหลักฮวงจุ้ย จะยิ่งช่วยทวีคูณความโชคดีให้แก่ผู้เลี้ยงปลาในคอนโด ส่วนจะมีปลาชนิดไหนบ้างนั้นที่สามารถเลี้ยงได้ง่ายในคอนโด แกรนด์ ยูนิตี้ ได้รวบรวมมาไว้ให้คุณแล้ว

 

1. เลี้ยงปลาหางนกยูง

เลี้ยง ปลา คอน โด

ปลายอดนิยมในการเลี้ยงสำหรับผู้เริ่มหัดเลี้ยงปลาในคอนโด เป็นปลาน้ำจืดขนาดเล็ก ลักษณะเด่นอยู่ที่ลักษณะลวดลายและสีข้างลำตัว รวมถึงรูปแบบของครีบหางขนาดใหญ่ ปลาหางนกยูงเพศผู้จะมีครีบหางยาว ลวดลายสวยงามกว่าเพศเมีย การเลี้ยงปลาหางนกยูงในคอนโดนั้นไม่ยุ่งยาก เหมาะกับคนที่อยากเลี้ยงปลาแต่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก สามารถเลี้ยงรวมกันเป็นฝูงได้ ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องออกซิเจนเหมือนปลาชนิดอื่น แพร่พันธุ์ง่าย

 

2. เลี้ยงปลาสอด

เลี้ยง ปลา คอน โด

เป็นปลาที่เลี้ยงง่ายแม้อยู่ในคอนโดเช่นกัน ปลาสอดมีความสวยงาม สีสันสดใส สามารถเลี้ยงรวมกันกับปลาชนิดอื่นได้ เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังเริ่มเลี้ยงปลาตู้ในคอนโด และไม่มีเวลาดูแลมากนัก ปลาสอดชอบอยู่อาศัยกับพวกต้นไม้น้ำ ขยายพันธุ์ได้ง่าย เลี้ยงได้นาน ไม่จำเป็นต้องใช้เครื่องออกซิเจน

 

3. เลี้ยงปลาทอง

เลี้ยง ปลา คอน โด

หากพูดปลาสวยงามที่นิยมเลี้ยงลำดับต้นๆ ต้องมีชื่อของปลาทองติดมาอย่างแน่นอน เป็นปลาเลี้ยงที่มีสีสันสวยงาม สีส้มไล่เฉดไปจนถึงเหลืองทอง และด้วยชื่อที่มีความมงคล คนจึงนิยมเลี้ยงกันมาก การเลี้ยงปลาชนิดนี้ในคอนโด คุณต้องหมั่นเปลี่ยนน้ำทุกสัปดาห์ เพราะเป็นปลารักความสะอาด จำเป็นต้องใช้เครื่องออกซิเจน เหมาะกับผู้ที่มีเวลาดูแลเอาใจใส่

 

4. เลี้ยงปลานีออน

เลี้ยง ปลา คอน โด

จัดเป็นกลุ่มปลาเลี้ยงขนาดเล็ก นิยมเลี้ยงเป็นฝูง มีลักษณะสีน้ำเงิน แดง สะท้อนแสง บริเวณหัวยาวจรดปลายหาง เลี้ยงง่าย ควรเลี้ยงในตู้ปลาที่มีไฟส่อง เพื่อให้แสงไฟจากตู้ปลาในคอนโดช่วยเสริมให้สีสันของปลานีออนสวยงามมากขึ้น ชอบอาศัยอยู่กับขอนไม้และต้นไม้น้ำ

 

5. เลี้ยงปลาบอลลูน

เลี้ยง ปลา คอน โด

ลักษณะเด่นของปลาบอลลูน คือมีลำตัวกลมเหมือนลูกบอลลูน มีหลากหลายสี เป็นปลาที่เลี้ยงง่ายแม้อยู่ในคอนโด แพร่พันธุ์ง่าย ในตู้เลี้ยงปลาควรใส่ต้นไม้น้ำ สาหร่าย ให้ปลาบอลลูนได้อยู่อาศัย



6. เลี้ยงปลาแรมโบลิเวีย

เลี้ยง ปลา คอน โด

จัดอยู่ในจำพวกปลาหมอแคระ มีนิสัยสุภาพไม่ดุร้าย สามารถเลี้ยงได้กับปลาสวยงามประเภทอื่น ปลาแรมโบลิเวียเป็นปลาที่เลี้ยงง่าย กินง่ายทั้งสัตว์น้ำขนาดเล็ก อาหารเม็ดสำเร็จรูป เหมาะกับการเลี้ยงในคอนโดเป็นอย่างมาก

 

7. เลี้ยงปลาม้าลาย

เลี้ยง ปลา คอน โด

ปลาม้าลายเป็นปลาเลี้ยงขนาดเล็ก ด้านข้างลำตัวจะมีลายพาดไปตามความยาวของลำตัว ประมาณ 7-8 แถบ โดยเพศผู้จะมีลายสีน้ำเงินสลับสีทอง ส่วนเพศเมียจะมีลายสีน้ำเงินสลับสีเงิน เป็นปลารักษาสงบ ชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ชอบแสงสว่างตลอดเวลา ควรติดตั้งไฟส่องสว่างที่ตู้เลี้ยงปลาในคอนโดด้วย

 

อย่างไรก็ตามหากคุณตั้งใจที่จะเลี้ยงปลาในคอนโดแล้ว คุณต้องพร้อมที่จะดูแลเหล่าปลาสวยงามเหล่านั้นเฉกเช่นเดียวกับสัตว์เลี้ยงอื่นๆ ถึงแม้ว่าปลาจะเป็นสัตว์ที่เลี้ยงในคอนโดง่าย แต่ก็ยังต้องการความเอาใจใส่ บทความ 7 ปลาสวยงาม เลี้ยงได้แม้อยู่ในคอนโด ที่ เราได้นำมาเสนอนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้คุณมีความสุขกับการเลี้ยงดูเหล่าปลาตัวเล็กในคอนโดครับ

อาชีพการเลี้ยงปลาขาย การเลี้ยงปลากัดสวยงาม ลงทุนน้อยได้กำไรงาม




จากคนรับจ้างแทงดิน หาเช้ากินค่ำไปวันๆ บางวันก็ได้เงินแต่บางวันก็ไม่ได้ เพราะไม่มีงานเข้ามาเลย แต่พอทันมาเพาะเลี้ยงปลากัดปรากฏว่าชีวิดของคงบุญยัง เล่าทุยชาวอำเภอนครชัยศรีจังหวัดนครปฐม พลิกผันดีขึ้นทันตาเห็น

ลุงบุญยังยืดอาชีพ การเพาะเลี้ยงปลากัด มานานนับ 10 ปี เขาได้พูดถึงอาชีพที่ทำอยู่นี้ว่าสามารถสร้างรายได้ให้อย่างงดงาม เนื่องจากการเลี้ยงปลากัดใช้เงินลงทุนที่น้อยมาก อีกทั้งสถานที่สำหรับเลี้ยงปลากัด ใช้วัสดุง่ายๆ เช่น รองส้วม ลงทุนครั้งเดียว แต่ใช้ได้นานทีเดียว

สายพันธุ์แรกที่เลี้ยงเป็น สายพันธุ์ลูกหม้อ แต่มันมีหลายสี เราก็เอาสีมาสับกันบ้าง ผลที่ได้ออกมาทำให้ปลากัดมีสีสันสวยงาม ตอนนั้นปลากัดลูกหม้อราคาตัวละ ประมาณ 5 บาท ตอนนี้ก็ราคาตัวละ 5-8 บาท จะเห็นว่าราคานิ่งมากซึ่งผิดกับปลากัดสายพันธุ์อื่นๆ ที่มีขึ้นมีลงอยู่ตลอดเวลา





กลุ่มลูกค้าของลุงมีอยู่ทั่วไป เวลานี้ปลากัดแพร่กระจายไปยังคนกลุ่มต่างๆพวกผู้ใหญ่ก็หันมาเลี้ยงปลากัด เพราะสีสันของปลามีความสวยงาม การเลี้ยงปลากัด ไม่จำเป็นต้องเอาไปกัด เลี้ยงเพื่อความสวยงามก็ได้ บางคนก็รับปลาของลุงไปขาย ปลากัดตัวเล็กๆ เราควรให้ลูกไรแดงก่อนประมาณครึ่งเดือนกว่าๆ จากนั้นก็เปลี่ยนอาหารเป็นไข่ตุ๋น การให้ไข่ตุ๋นเพื่อเป็นการทุ่นเรื่องค่าใช้จ่าย เนื่องจากลูกน้ำมีราคาแพง ทำให้ผู้เลี้ยงไม่มีกำไร

คนเรามีความถนัดแตกต่างกัน บางคนเกิดมาเพื่อทำงานในห้องแอร์ บางคนเกิดมาเพื่อทำงานแบกหาม บางคนต้องทนร้อนอยู่หน้าเตาไฟเพื่อขายกยเตี๋ยว คนทุกคนถูกกำหนดเอาไว้แล้วว่ามีอาชีพอะไร คนที่ไม่เกี่ยงงานจะไม่ตกงาน ถือว่าเป็นสัจจะธรรมความจริง....



ข่าวสารปลา เกร็ดความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงปลา เลี้ยงปลาตู้ ปลาสวยงาม www.natfishtank.com

การเลี้ยงปลาในกระชัง

การเลี้ยงปลาในกระชัง หมายถึง การเลี้ยงปลาในภาชนะกักขัง ตั้งแต่ลูกปลาไปจนถึงปลาขนาดใหญ่ น้ำสามารถถ่ายเทได้รอบด้านของภาชนะกักขัง

การเลี้ยงปลาแบบนี้สามารถดำเนินการได้ในแหล่งน้ำทั่วไปในแม่น้ำ อ่างเก็บน้ำ คลองส่งน้ำ แม้แต่ในบ่อที่ขุดแร่ ซึ่งมีน้ำขัง หรือแหล่งน้ำที่เต็มไปด้วยตอไม้ก็ใช้ได้ การเลี้ยงปลาในกระชังเป็นวิธีการหนึ่งที่เหมาะสมทั้งทางเศรษฐกิจ และการปฏิบัติ นอกจากนั้น วิธีนี้อาจจะนำไปใช้ในแหล่งน้ำกร่อย หรือในทะเลก็ได้ การเลี้ยงปลาในกระชังสามารถปล่อยปลาได้หนาแน่น การให้อาหารสมทบที่สมดุลจะให้ปลาเจริญเติบโตเร็ว และให้ผลผลิตสูงในระยะเวลาอันสั้น

ส่วนประกอบอย่างอื่นของตัวกระชังก็คือ

1. ทุ่นสำหรับลอยกระชัง ชนิดที่ลอยผิวน้ำ ประกอบด้วยทุ่นโลหะหรือพลาสติก หรือท่อพีวีซี (PVC) ปิดหัวท้าย

2. ฝาปิด ฝาปิดส่วนบนจะช่วยป้องกันศัตรู โดยเฉพาะพวกนก ป้องกันสาหร่ายเกาะตัวกระชัง และป้องกันขโมย และบางโอกาส ทำให้ปลาไม่ตื่นตกใจ กินอาหารดีขึ้น ฝาปิด อาจทำด้วยอวน ไม้หรือตาข่ายโลหะ และผักตบชวา

3. ที่ให้อาหาร ควรจะต้องมี มิฉะนั้นจะสูญหาย ที่ให้อาหารอาจเป็นแป้นสี่เหลี่ยมมีเนื้อที่ ๑ ตารางเมตร หรือถ้าให้อาหารลอย ก็ควรมีกรอบป้องกันอาหารไหลตามน้ำ

รูปร่างลักษณะของกระชัง ส่วนใหญ่มีรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า หรือสี่เหลี่ยมด้านเท่า บางแห่งสร้างรูปกลมหรือหกเหลี่ยม ขนาดของกระชัง มีปริมาตร ตั้งแต่ ๑-๑๐๐ ลูกบาศก์เมตร ขนาดเล็ก ๐.๗-๑๐ ลูกบาศก์เมตร ส่วนใหญ่ใช้สำหรับทดลอง แต่ที่ทำ เป็นการค้า เช่น ในอินโดนีเซีย อาจมีขนาดถึง ๑๖-๑๕๐ ลูกบาศก์- เมตร การเลี้ยงปลาในกระชังไม่ควรจะทำกระชังขนาดใหญ่ เพราะมีข้อเสียหาย และความไม่สะดวกหลายประการในการจัดการ ขนาดกระชังที่เหมาะกับการเลี้ยงปลา ควรมีขนาดความจุ ๒๐ ลูกบาศก์เมตร

การเลี้ยงปลาในกระชังมิใช่ของใหม่ แต่มีมาแล้วไม่น้อย กว่า ๑๐๐ ปี การเลี้ยงปลาดังกล่าว กระทำกันตามทะเลสาบ แม่น้ำ โขง และสาขาของแม่น้ำโขง ปลาที่เลี้ยงส่วนใหญ่ ได้แก่ ปลา สวาย ปลาเทโพ และปลาดุก การเลี้ยงปลาในกระชังของไทย กระทำกันอยู่ในแม่น้ำน่าน จังหวัดนครสวรรค์ และแม่น้ำ สะแกกรัง จังหวัดชัยนาท

ชนิดของปลาที่ควรจะเลี้ยงในกระชัง 

ควรมี ลักษณะดังนี้

ก. ในแง่ทางชีววิทยาและสรีรวิทยา 

๑. โตเร็ว 
๒. กินอาหารสมทบที่ให้ 
๓. สามารถเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อได้ดี 
๔. สามารถอยู่ได้หนาแน่นแออัด 
๕. ทนต่อสภาวะแวดล้อมโดยเฉพาะในน้ำที่มีก๊าซ ออกซิเจนต่ำ 
๖. ทนทานและมีความต้านทานโรคสูง 
๗. หาลูกปลาได้สะดวก มีปริมาณพอเพียง 

ข. ในแง่เศรษฐกิจ 

๑. ราคาซื้อขายสูง 
๒. ขายง่าย ขายสดไม่ต้องผ่านกรรมวิธีมาก 
๓. ชนิดที่ตลาดต้องการ

ปลาน้ำจืดที่มีความต้านทานที่เหมาะจะเลี้ยงในกระชังมีอยู่ ๕ ครอบครัว คือ 
ไซพรินิดี (Cyprinidae) ได้แก่ ปลาไน 
ซิลูริดี (Siluridae) ได้แก่ ปลาสวาย ปลาเทโพ 
คลาริไอดี (Claridae) ได้แก่ ปลาดุก 
โอฟิเซฟาลิดี (Ophicephalidae) ได้แก่ ปลาช่อน และ 
ซิคลิดี (Cichlidae) ได้แก่ ปลาในสกุลตีลาเบีย ชนิดต่าง ๆ เช่น ปลานิล 
ผลการทดลองปรากฏกว่า ปลานิลเหมาะแก่การเลี้ยงในกระชังมาก มีการเจริญเติบโตดี และมีอัตรารอดสูง กินอาหารเม็ด และเปลี่ยนอาหารเป็นเนื้อได้ดี มีความต้านทานโรคสูง และสามารถปรับตัวอยู่ได้หนาแน่น

ข้อเสียของปลาสกุลตีลาเบียที่เลี้ยงในบ่อดินก็คือ อัตรา การขยายพันธุ์ปลาสกุลตีลาเบีย เช่น ปลาหมอเทศ มีอัตราการขยายพันธุ์รวดเร็วมาก จึงทำให้การเจริญเติบโตชะงักงัน แต่เมื่อ นำไปเลี้ยงในกระชัง การสืบพันธุ์ดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้น เนื่องจาก ปลาไม่สามารถทำหลุมวางไข่ในกระชังลอย ในปัจจุบันได้มีการ ทดลองเลี้ยงปลาหลายชนิดรวมกันในกระชัง ซึ่งจะทำให้ผลผลิตปลาสูงขึ้น โดยปล่อยปลาไนร้อยละ ๖๕ ปลาลิ่นร้อยละ ๑๘  และปลาซ่งร้อยละ ๑๘ ในระยะเวลาเลี้ยง ๑๑๗ วัน ปลาไนจะ โตจาก ๑๑๐ กรัม เป็น ๕๔๐ กรัม ปลาลิ่นจะโตจาก ๑๕๐ กรัม เป็น ๓๗๐ กรัม และปลาซ่งจะโตจาก ๑๗ กรัม เป็น ๒๐๐ กรัม


กระชังที่เลี้ยงปลาควรจะทำด้วยวัสดุที่มีราคาถูก มีความ คงทนและง่ายต่อการรักษาดูแล แต่ในทางปฏิบัตินั้น ก็แตกต่างกันไปตามท้องที่ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับวัสดุที่มีใช้อยู่ในท้องที่นั้นๆ รวมทั้งรูปแบบ และการลงทุน ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาวะทางเศรษฐกิจ




อัตราการปล่อยและผลผลิตปลาในกระชัง 

ชนิดของปลาที่เลี้ยงในกระชัง คือ ปลาสวาย ปลาเทโพ ปลาช่อน ปลาบู่ ปลาตะเพียน ปลาตะโกก อัตราการปล่อยลูกปลา ขนาด ๓.๘-๖.๓ เซนติเมตร ปลาช่อน ๘๐ ตัวต่อตารางเมตร ปลาสวาย ปลาเทโพ ๙๓ ตัวต่อตารางเมตร ปลาตะเพียน ๓๖๑ ตัว ต่อตารางเมตร และปลาไน ๑๐๗ ตัวต่อตารางเมตร เมื่อเลี้ยง ครบ ๑ ปี ผลผลิตในปริมาตรน้ำ ๑ ลูกบาศก์เมตร จะได้ปลา ตะเพียน ๔๕.๕ กิโลกรัม ปลาสวายหรือปลาเทโพ ๖๒.๑ กิโลกรัม ปลาช่อนชะโด ๑๑๒.๘ กิโลกรัม และปลาไน ๑๓๓.๓ กิโลกรัม สรุปแล้วจะเห็นว่า การเลี้ยงปลาไนในกระชังให้ผลผลิตสูงกว่า การเลี้ยงปลาในบ่อ ๑๐- ๒๐ เท่า


การเลี้ยงปลาตู้ การวางไข่ การรักษาไข่ของปลาตู้ การดูแลลูกปลาที่ถูกต้อง


ลักษณะการวางไข่ หรือการออกลูกของตู้ปลา

ปลาตู้ มีการสืบพันธุ์ไม่เหมือนกัน บางชนิดก็ออกไข่ และไข่นั้นบางทีก็มีระยะถึง 5-6 วันกว่าจะเป็นตัว ปลาโดยมากเมื่อท้องแก่แล้วต้องอาศัยตัวผู้รัดท้องจึงจะขายออก และนานๆ เข้าท่าไข่ทิ้งไม่ทัน อาจถึงตายได้ โดยมากก็มักตาย ปลาชนิดนี้เมื่อเห็นว่าท้องแก่แล้ว ต้องระวังเวลาแยกออกไปใส่ตู้ต่างหาก อย่าให้กระโดดลงไปเหมือนปลาที่ออกลูกเป็นตัว ซึ่งอาจแท้งตาย หรือถึงออกลูกมาลูกก็ตายเป็นส่วนมาก เมื่อแยก ปลาไข่ออก แล้ว ก็อย่าเพิ่งเอาตัวผู้เข้าไปไล่ แต่ปล่อยไว้วันสองวันก่อน แล้วจึงค่อยเอาตัวผู้เข้าไปไล่รัดคราวหลัง



ตู้ที่ใช้ผสมปลาไข่ ก็ควรให้มีเครื่องปกป้องหรืออำพรางไข่ไม่ ให้แม่ปลาเห็นง่ายๆ เพราะแม่ปลาโดยมากมักกินไข่ของตัวเองเสมอ เช่น ใช้กรวดหรือหินย่อยก้อนเล็กๆ ซึ่งแช่น้ำมานานพอที่จะไม่รู้รสกร่อยๆหรือมีดังออกมาทำลาย ปลาแล้ว โรยไว้ตามพื้นตู้ เพื่อให้ไข่ตกลงไปตามซอกๆ ของเมล็ดกรวดหรือหินเหล่านั้นโดยแม่ปลาไม่ทันสังเกตหรือถึงสังเกตก็อาจกินได้ยากกว่าเมื่อไข่อยู่บนพื้นที่ไม่มีอะไรกีดขวาง ในต่างประเทศโดยมากเขาใช้ตะแกรงลวดอลูมิเนียมโค้งๆ หย่อนลงไปกันแม่ปลาไม่ให้กินไข่ได้ เมื่อไข่ปลาร่วงลงไปใต้ตะแกรงนั้นแล้ว เพราะช่างตะแกรงมีขนาดพอที่ไข่จะตกลงไปได้


แต่ตัวปลาเองลอดไม่ได้ เมื่อปลาไข่หมดท้องเสียแล้วแยกแม่ปลาออกแล้ว จึงค่อยเอาตะแกรงออกซึ่งวิธีนี้ดีกว่าใช้กรวดหรือเมล็ดหินเล็กๆ โรยลวงตาปลา เพราะต้องคอยระวังมากขยับเขยื้อนไม่ได้ จะจับตู้ ยกตู้ หรือแม้ให้อาหารปลากินก็ต้องระวังไม่ให้กระทบเพราะกรวดหรือหินนั้นอาจกลิ้งไปทับไข่ปลาหรือลูกปลาได้ จนกว่าลูกปลาจะแข็งแรงว่ายขึ้นมาได้แล้ว จึงค่อยยังชั่วขึ้นสะดวกสบายขึ้น แต่ถึงกระนั้น ก็ต้องระวังกันต่อไปอีก เพาะลูกปลาตัวเล็กๆ โดยมาก ว่ายน้ำขึ้นมาแล้วก็จะจมตัวลงไปนอนนิ่งอยู่ที่ก้นตู้อีก แม้เวลาจะเอาแม่ปลาออกก็ต้องระวัง ช้อนออกลำบากกว่าใช้ตะแกรงกั้นเพราะตะแกรงนั้นหยิบยกออกมาได้ง่ายกว่า


ข่าวสารปลา เกร็ดความรู้เกี่ยวกับการเลี้ยงปลา เลี้ยงปลาตู้ ปลาสวยงาม www.natfishtank.com